รับออกแบบติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติ

Automation System

รับออกแบบระบบติดตั้งควบคุมอัตโนมัติ โดยมุ่งเน้นให้กระบวนการผลิตมีความแม่นยำ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความผิดพลาดและลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว

รับออกแบบผลิตและติดตั้งระบบบำบัดมลพิษทางอากาศที่มีคุณภาพ

บริษัท คอนโทรล แอ๊ดวานซ์ จำกัด รับออกแบบผลิตและติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติ เช่นโรงงานบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานระะอัตโนมัติ, ระบบลำเลียงวัสดุ, ระบบเชื่อมอัตโนมัติ ระบบเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน และทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในโรงงานสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน

องค์ประกอบหลักของระบบควบคุมอัตโนมัติ

1. ตัวควบคุม (Controllers)

PLC (Programmable Logic Controller) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมกระบวนการในอุตสาหกรรม โดยเขียนโปรแกรมผ่านภาษาที่กำหนด เช่น Ladder Diagram หรือ Structured Textใช้งานใช้ในสายพานลำเลียงสินค้าในโรงงาน
DCS (Distributed Control System) ระบบควบคุมที่เหมาะสำหรับกระบวนการที่ซับซ้อน เช่น โรงกลั่นน้ำมันหรือโรงผลิตไฟฟ้า โดยมีการกระจายตัวควบคุมไปยังหลายจุด ใช้ในระบบควบคุมการผลิตเคมีภัณฑ์
SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) ใช้ในการเก็บข้อมูลแบบเรียลไทม์และควบคุมกระบวนการจากระยะไกล
ตัวอย่างการใช้งานใช้ในระบบจัดการพลังงานไฟฟ้า

2. เซ็นเซอร์ (Sensors)

เซ็นเซอร์อุณหภูมิ (Temperature Sensors) เช่น เทอร์โมคัปเปิล (Thermocouple) หรือ RTD (Resistance Temperature Detector) สำหรับวัดอุณหภูมิในเตาหลอม ใช้งานเซ็นเซอร์อุณหภูมิในเครื่องจักรอบแห้ง
เซ็นเซอร์แรงดัน (Pressure Sensors) ใช้ในระบบไฮดรอลิกหรือเครื่องจักรที่ต้องควบคุมแรงดัน เซ็นเซอร์แรงดันในหม้อไอน้ำ
เซ็นเซอร์ระดับ (Level Sensors) เช่น อัลตราโซนิกเซ็นเซอร์สำหรับวัดระดับของเหลวในถัง
เซ็นเซอร์น้ำหนัก (Weight Sensors) ใช้ในเครื่องชั่งสินค้า
เซ็นเซอร์แสง (Photoelectric Sensors): ใช้ตรวจจับวัตถุในสายการผลิต

3. อุปกรณ์ทำงาน (Actuators)

มอเตอร์ไฟฟ้า (Electric Motors) ใช้ในการขับเคลื่อนสายพานลำเลียงหรือเครื่องจักร ขับเคลื่อนแขนหุ่นยนต์ในสายการผลิต
วาล์วควบคุม (Control Valves) ใช้ในระบบไหลของของเหลวหรือก๊าซ เช่น ระบบจ่ายน้ำ วาล์วควบคุมอัตราการไหลในระบบปิโตรเคมี
กระบอกสูบไฮดรอลิก (Hydraulic Cylinders) ใช้ในงานที่ต้องใช้แรงสูง เช่น การยกของหนัก
กระบอกสูบลม (Pneumatic Actuators) ใช้ในระบบที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การเปิด-ปิดวาล์ว

4. ซอฟต์แวร์ควบคุม (Control Software)

เขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมกระบวนการ เช่น การตั้งค่าลำดับการทำงานของสายการผลิต
เชื่อมต่อกับระบบฮาร์ดแวร์ เช่น PLC หรือ DCS เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ
แสดงผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่าน HMI (Human-Machine Interface)

  • Siemens TIA Portal ใช้สำหรับการเขียนโปรแกรม PLC และ SCADA
  • Rockwell Automation Studio 5000 สำหรับควบคุมระบบอัตโนมัติในโรงงาน
  • Wonderware System Platform สำหรับการจัดการและเก็บข้อมูลในระบบ SCADA

ตัวอย่างการใช้งานระบบควบคุมอัตโนมัติในโรงงาน

1.สายการผลิต (Production Line)

ควบคุมการทำงานของเครื่องจักรตั้งแต่การป้อนวัตถุดิบจนถึงการบรรจุสินค้า การป้อนวัตถุดิบใช้ระบบลำเลียงอัตโนมัติเพื่อนำวัตถุดิบเข้าสู่สายการผลิต
การผลิตควบคุมเครื่องจักร เช่น เครื่องตัด, เครื่องเจาะ, หรือเครื่องประกอบชิ้นส่วน และการบรรจุ เครื่องจักรบรรจุสินค้าในบรรจุภัณฑ์หรือหีบห่อโดยอัตโนมัติ

2. ระบบตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control)

ตรวจสอบข้อบกพร่องของสินค้าโดยใช้กล้องหรือเซ็นเซอร์ การใช้กล้องความละเอียดสูง (High-Resolution Cameras) ตรวจจับข้อผิดพลาด เช่น รอยแตกหรือรอยเปื้อน และใช้เซ็นเซอร์วัดค่าต่าง ๆ เช่น น้ำหนัก, ขนาด, หรือความหนา ตัวอย่างการใช้งาน การตรวจสอบฉลากสินค้าในอุตสาหกรรมอาหาร

ติดตั้งAutomatic Control

3. ระบบจัดเก็บสินค้า (Warehouse Automation)

ระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการคลังสินค้า โดยใช้เทคโนโลยี เช่น หุ่นยนต์ (Robotics) หรือรถ AGV (Automated Guided Vehicle) เพื่อเคลื่อนย้ายและจัดเก็บสินค้า ลักษณะการทำงานระบบหุ่นยนต์จัดเก็บสินค้าในชั้นวาง (Automated Storage and Retrieval Systems – AS/RS) รถAGV ใช้สำหรับขนส่งสินค้าภายในคลัง และการใช้บาร์โค้ดหรือ RFID สำหรับตรวจสอบสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์ ข้อดีลดการใช้พื้นที่คลังสินค้า

4. ระบบควบคุมพลังงาน (Energy Management)

ระบบควบคุมพลังงานเป็นการใช้เทคโนโลยีอัตโนมัติในการตรวจสอบและจัดการการใช้พลังงานในโรงงาน เพื่อให้เกิดความประหยัดและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การทำงานติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการใช้พลังงาน เช่น การใช้ไฟฟ้าหรือแก๊ส และมีการใช้ซอฟต์แวร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับการทำงานของเครื่องจักรให้เหมาะสม และใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น แผงโซลาร์เซลล์หรือระบบกักเก็บพลังงาน

5. ระบบบรรจุภัณฑ์อัตโนมัติ (Packaging Automation)

ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติในการบรรจุสินค้า ปิดผนึก และติดฉลาก ช่วยลดเวลาและแรงงานในกระบวนการบรรจุ ตัวอย่าง เครื่องบรรจุขวดน้ำอัตโนมัติหรือเครื่องซีลสินค้า

6. ระบบลำเลียงวัสดุ (Material Handling)

ใช้สายพานลำเลียง, หุ่นยนต์จัดการวัสดุ หรือรถ AGV (Automated Guided Vehicle) ในการขนส่งวัตถุดิบหรือสินค้าภายในโรงงาน ตัวอย่างการลำเลียงชิ้นส่วนรถยนต์ในสายการผลิต

7. ระบบผสมวัตถุดิบ (Mixing and Blending Automation)

ใช้ระบบควบคุมเพื่อผสมวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม หรือเคมีภัณฑ์ตัวอย่างการควบคุมการผสมแป้ง น้ำตาล และส่วนผสมอื่นในโรงงานขนมปัง

8. ระบบตรวจสอบและควบคุมกระบวนการ (Process Monitoring and Control)

ตรวจวัดค่าต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ความดัน หรือความเร็วของเครื่องจักรแบบเรียลไทม์ และปรับกระบวนการให้เหมาะสม ตัวอย่างการควบคุมอุณหภูมิในเตาหลอมเหล็กหรือหม้อไอน้ำ

ระบบควบคุมอัตโนมัติ

9. ระบบพ่นสีและเคลือบผิว (Painting and Coating)

ใช้หุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติในการพ่นสีหรือเคลือบผิวเพื่อความสม่ำเสมอและคุณภาพสูงตัวอย่าง การพ่นสีรถยนต์ในสายการผลิต

10. ระบบเชื่อมอัตโนมัติ (Automated Welding)

ใช้หุ่นยนต์เชื่อมสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานผลิตรถยนต์หรือโครงสร้างโลหะตัวอย่าง หุ่นยนต์เชื่อมจุดในสายการผลิตรถยนต์

11. ระบบทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ (Cleaning and Sterilization)

ใช้เครื่องจักรอัตโนมัติในการล้างและฆ่าเชื้ออุปกรณ์หรือพื้นที่ เพื่อให้ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัย ตัวอย่างระบบ CIP (Clean-In-Place) ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

12.ระบบบริหารจัดการคลังสินค้าอัจฉริยะ (Smart Warehouse Management):

ใช้ซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ IoT ในการตรวจสอบสถานะสินค้าในคลังและจัดการพื้นที่เก็บสินค้าให้มีประสิทธิภาพตัวอย่างระบบ RFID เพื่อติดตามสินค้าตลอดการขนส่งและเก็บรักษา

13. ระบบอัตโนมัติในห้องปฏิบัติการ (Laboratory Automation)

ใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการตรวจสอบคุณภาพตัวอย่างหรือการวิเคราะห์ส่วนผสม ตัวอย่าง เครื่องจักรทดสอบคุณภาพในอุตสาหกรรมยา

ระบบเหล่านี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนแรงงาน และทำให้กระบวนการต่าง ๆ ในโรงงานสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน